วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ภูเก็ตเลือก “เกาะราชา” นำร่องแก้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ-ปะการังเสื่อมโทรม

      ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตเลือกพื้นที่ “เกาะราชา” นำร่องกำหนดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และชายฝั่งร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยว และชาวประมงพื้นบ้านหลังพบแนวปะการังมีสภาพสมบูรณ์ปานกลางจนถึงเสื่อมโทรมมาก รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
      
       นายไพทูล แพนชัยภูมิ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 4 (ภูเก็ต) กล่าวถึงการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่เกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยว และชาวประมงพื้นบ้าน หลังจากมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติระหว่างชาวประมงพื้นบ้าน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงาม ทำให้มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย การพัฒนาอย่างรวดเร็วดังกล่าวได้ส่งผลให้ทรัพยากรทางทะเลของจังหวัดภูเก็ตเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว
      
       จากรายงานของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง พบว่า แนวปะการังในบริเวณเกาะภูเก็ตมีสภาพสมบูรณ์ปานกลางถึงเสื่อมโทรมมาก สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้แนวปะการังเสื่อมความสมบูรณ์ลงเนื่องจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากปัจจัยธรรมชาติ
      
       เช่น พายุ การระบาดของดาวหนาม ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การพัฒนาชายฝั่ง การท่องเที่ยวในแนวปะการัง การประมง การทำเหมืองแร่ในทะเล การสร้างท่าเทียบเรือ เป็นต้น ความเสื่อมโทรมของปะการังดังกล่าว ทำให้ศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญลดลง ข้อเท็จจริงนี้สวนทางกับวิสัยทัศน์ของจังหวัดภูเก็ตที่จะเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีเอกลักษณ์วัฒนธรรม และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน”
      
       นายไพทูล กล่าวต่อว่า นอกจากความเสื่อมโทรมของปะการัง ซึ่งเปรียบเสมือนบ้าน และแหล่งที่อยู่อาศัยขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ ยังมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลในการยังชีพด้วย ปัญหาที่สำคัญ คือ การเพิ่มโอกาสของความขัดแย้งระหว่างผู้ที่ใช้ประโยชน์เกี่ยวข้องกับแนวปะการัง ทั้งโดยทางตรง และทางอ้อม เช่น ปัญหาระหว่างชาวประมงกับนักดำน้ำ ปัญหาระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวกับชาวประมงหรือระหว่างผู้ประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวในทะเลด้วยกันเอง เป็นต้น
      
        ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีแนวทาง และมาตรการที่ชัดเจนในการอนุรักษ์ และบริหารจัดการ แนวปะการังของจังหวัดภูเก็ต โดยโครงการแบ่งเขตการใช้ประโยชน์แนวปะการัง จ.ภูเก็ต โดยได้ทดลองศึกษา และหาแนวทางดำเนินการในพื้นที่นำร่องบริเวณเกาะราชาใหญ่ เนื่องจากมีความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ สภาพแนวปะการัง รวมทั้งความเร่งด่วนของปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาความขัดแย้งของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน
      
       โดยการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ตามกติกาที่ได้ตกลงกันไว้ รวมทั้งผลักดันข้อกำหนดต่างๆ ให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ถ้ามีการกระทำผิด มีมาตรการลงโทษจะได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเกิดประโยชน์สูงสุด และยั่งยืนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น